นายสุรพล  เศวตเศรนี  ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. โดยภูมิภาคอเมริกา เตรียมนำทีมผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวไทย เข้าร่วมโครงการ “Amazing Thailand Road Show to U.S.A. & Canada 2011” ณ สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 9 พฤษภาคม 2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นตลาดและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวตลาดอเมริกา และแคนาดา ในการนำเสนอรายการนำเที่ยว และเร่งยอดขายรายการนำเที่ยว มาประเทศไทย  พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ ของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Amazing Thailand Always Amazes you”  ซึ่งตอกย้ำถึงเสน่ห์ของความเป็นไทย ที่สื่อถึงรอยยิ้ม ความเป็นเจ้าภาพที่ดี และความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศิลปวัฒนธรรมของไทย

โครงการ “Amazing Thailand Road Show to U.S.A. & Canada 2011” กำหนดจัดขึ้นใน 6 เมืองหลักที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดา ได้แก่ โตรอนโต ซานฟรานซิสโก  ฮุสตัน  ชิคาโก  กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และ นครนิวยอร์ค  โดย ททท. ได้เชิญผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวจากไทยทั้งบริษัทนำเที่ยว และโรงแรมและรีสอร์ทร่วมเจรจาธุรกิจในงานดังกล่าว  ภายในงานซึ่งจัดขึ้นในแต่ละเมืองจะประกอบด้วย การจัดการบรรยายสรุปสินค้าการท่องเที่ยว  อัพเดทสถานการณ์การท่องเที่ยว และการฉายวีดีทัศน์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารประเทศไทย (Product Briefing & Video Presentation) แก่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในตลาดสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้เกิดการรับรู้ โดยในปีนี้ ททท. เตรียมเจาะกลุ่ม Babyboomers (อายุระหว่าง 46 -65 ปี)  Generation X และ Y (อายุระหว่าง 25 – 45 ปี)  ผ่านการนำเสนอสินค้า 4 กลุ่มความสนใจเฉพาะที่กำลังเป็นกลุ่มตลาดใหม่ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดอเมริกา ได้แก่ กลุ่มฮันนีมูน  กอล์ฟ  การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและกลุ่มการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มอาสาสมัคร   นอกจากนี้  ภายในงานยังได้จัด Table Top Sales เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวชาวไทยได้พบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในเมืองต่างๆ พร้อมเตรียมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมเพื่อสื่อถึงความสวยงามของวัฒนธรรมและประเพณีที่สวยงามมีเอกลักษณ์ของประเทศไทย โดยนักแสดงจากภัทราวดีเธียเตอร์ ไปแสดงในครั้งนี้ด้วย

 ททท. คาดว่า การจัดงานครั้งนี้จะมีผู้แทนบริษัทนำเที่ยวในภูมิภาคอเมริกาและแคนาดาให้ความสนใจเข้าร่วมงานใน 6 เมืองรวมทั้งสิ้นประมาณ 500 ราย นับเป็นเวทีสำคัญที่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจของไทย ได้มีโอกาสพบและเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวจากตลาดอเมริกาและแคนาดาโดยตรง ทั้งเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับเครือข่ายธุรกิจเดิม และยังเป็นการขยายเครือข่ายทางธุรกิจด้านท่องเที่ยวใหม่  นอกจากนี้  ยังเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยในภาพรวม ช่วยสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้บริษัทนำเที่ยวได้เกิดการรับรู้ว่าประเทศไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายและคุ้มค่าเงิน  มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่ม และภาครัฐบาลก็ดำเนินการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น อาทิเช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)  รถไฟฟ้า (BTS) และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น  

จากสถิตินักท่องเที่ยวในปี 2553 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยจำนวน 591,135 คน สร้างรายได้กว่า 35,500 ล้านบาท และชาวแคนาดาจำนวน 151,174 คน สร้างรายได้กว่า 9,000 ล้านบาท  นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวมีระยะเวลาพำนักเฉลี่ย 14 - 15 วัน มีการใช้จ่ายประมาณ 4,100 – 4,300 บาทต่อคนต่อวัน  ส่วนใหญ่นิยมแหล่งท่องเที่ยวประเภทประวัติศาสตร์  วัฒนธรรม  เชิงอนุรักษ์  และผจญภัย  โดยจังหวัดที่ได้รับความนิยมสูง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร  ภูเก็ต  และ พัทยา และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวไปยังแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น อาทิ เกาะสมุย  เชียงราย  หัวหิน  ชะอำ  กาญจนบุรี  อยุธยา เกาะช้าง และ กระบี่ เป็นต้น