หนูตะลอน :: ข่าวประชาสัมพันธ์ วันตกปลาอินทรีที่ทะเลตราด ครั้งที่ ๙/๒๕๕๔

นายวรนิติ์ กายราศ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานตราด ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานดังกล่าวว่า ททท.สำนักงานตราด ได้จัด “งานแข่งขันตกปลาอินทรีที่ทะเลตราด” เป็นประจำทุกปี โดยกำหนดวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์ที่ ๒ ของเดือนธันวาคมเป็นวันจัดงาน ซึ่งเป็นที่รับทราบของนักตกปลาทั่วประเทศแล้ว ในปีนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ ๙ ซึ่งน่าจะเป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่มีความพิเศษและท้าทายฝีมือนักตกปลาอย่างสูงสุด เพราะจะเป็นช่วงคืนวันเพ็ญ นับว่าเป็นแต้มต่อที่สำคัญระหว่างคนกับปลา ที่ผ่านมา หากเป็นนักตกปลาแฟนพันธุ์แท้ย่อมทราบดีว่า งานนี้ไม่ได้เน้นการแข่งกันนำปลาขึ้นมาจากทะเลเป็นหลัก เพราะถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ แต่เป็นการแสดงสปิริตในหมู่ผองเพื่อนนักตกปลาที่นัดหมายมาพบปะกันปีละครั้งเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันมากกว่า และเป็นการประชันฝีมือของ “ใต๋” หรือ “ไต้ก๋งเรือ” ของจังหวัดตราด ที่พร้อมจะให้บริการแก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาตกปลา เพื่อตกลงเช่าเหมาเรือไปตกปลาในโอกาสต่อไป

นอกจากกิจกรรมการแข่งขันตกปลาแล้ว ททท.สำนักงานตราด ยังได้สอดแทรกกิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอีกหลายรูปแบบ เช่น การจัดกิจกรรมประกวดวาดภาพของเยาวชน ๕ ระดับ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ในหัวข้อ“ทะเลตราดสวยใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน สำหรับนักกีฬาตกปลา ยังมีกิจกรรมการอนุรักษ์ธรรมชาติโดยใช้เวลาว่างระหว่างรอปลากินเหยื่อ เก็บขยะที่ลอยอยู่ในทะเล ทีมใดที่สามารถเก็บขยะได้น้ำหนักมากที่สุจะได้รับรางวัล“ทีมอนุรักษ์ยอดเยี่ยม” เป็นแรงจูงใจซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ ททท. คือ “การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรู้คุณค่า รักษาแหล่งท่องเที่ยว” อีกด้วย

สำหรับเพื่อนฝูงผู้ติดตามนักกีฬา หากไม่ชอบการรอคอยหรืออยากแสวงหาที่เที่ยวใหม่ ๆ ททท.สำนักงานตราดขอเสนอเส้นทางบรรยากาศ “ซ้ายภูผา ขวาทะเล” ตราด – อำเภอคลองใหญ่ สู่ตลาดการค้าชายแดนไทย – กัมพูชาหาดทรายและรีสอร์ทสวยงามมาตรฐานหลายแห่ง รอให้ท่านค้นหาไม่แพ้บนเกาะใด ๆ ความสวยใสน้ำทะเล อาหารทะเลสดอร่อยและราคาถูกกว่าโซนอื่น ๆ ชมพระอาทิตย์อัสดงบริเวณจุดชมวิวสุดแผ่นดินตะวันออกในบรรยากาศที่จะไม่มีวันลืม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดบนฝั่งในขณะนี้ คือ การรอชมฝูงเหยี่ยวแดงคอขาวรับร้อยตัวในเวลาเที่ยงวัน ที่ตำบลหนองคันทรง หรือจะขับรถเลยไปถึง “ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตราด” ที่มีประวัติการเพาะเลี้ยงปลาย่ำสวาท (กะรังจุดฟ้า) ที่หาได้ยากในแหล่งน้ำธรรมชาติได้สำเร็จเป็นแห่งแรกในโลก, ชมการเพาะเลี้ยงปลาการ์ตูน ๕ สายพันธุ์, การเพาะพันธุ์หอยหวานและสาหร่ายทะเลหลากสายพันธุ์ การเพาะกิ่งปะการังเพื่อการอนุรักษ์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวบนฝั่งอีกมากมาย เช่น ชวนคณะฯ ไปไหว้ศาลหลักเมืองเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต แล้วไปชมวัดบุปผาราม หรือ วัดปลายคลอง ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา ได้รับรางวัลการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๔ มีศิลปวัตถุโบราณหายาก ภาพเขียนแสดงศิลปะสื่อสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมไทย – จีน หรือ หากสนใจไปท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จังหวัดตราดมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เคยได้รับรางวัล “ชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยว” จาก ททท. ในปี ๒๕๕๐ ถึง ๔ ชุมชน และมี ๒ ชุมชนที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (กินรี) คือ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศสองศาสนาบ้านน้ำเชี่ยว (ไทยพุทธ – ไทยอิสลาม)
การท่องเที่ยวตามรอยต้นครูซสู่วัฒนธรรมต้นจากเชิงสร้างสรรค์ของ กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ตำบลห้วยแร้ง, ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก (เกาะช้าง) ที่มีเรือมาดหรือ “กอนโดล่าเกาะช้าง” ไว้บริการ, ชุมชนรักษ์คลองบางพระหรือ “เชียงคานน้อย” หรือจะออกแนวโลดโผนท่องเที่ยวแบบผจญภัยผ่านด่านห้อยโหนที่ท้าทายกับ Tree Top Adventure ที่เกาะช้าง ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การมาเยือนครั้งนี้เป็นอย่างมาก

ในส่วนของกิจกรรมงาน “วันตกปลาอินทรีที่ทะเลตราด” ครั้งที่ ๙ ประจำปี ๒๕๕๔ มีดังนี้
วันศุกร์ที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๔

๑๓.๐๐ น. ลงทะเบียนทีมผู้เข้าร่วมการแข่งขัน และประชุมชี้แจงรายละเอียด

๑๖.๐๐ น. พิธีเปิดการแข่งขันสู่สนามการแข่งขัน บริเวณท้องทะเลตราดอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง

วันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๔

๐๗.๓๐ น. กิจกรรมประกวดวาดภาพ จากโรงเรียนต่าง ๆ ของจังหวัดตราด ณ บริเวณพื้นที่จัดงาน

๐๙.๐๐ น. คณะกรรมการฯ ลงสนามการแข่งขันตกปลาบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เพื่อตรวจสอบตำแหน่งของเรือตกปลา

วันอาทิตย์ที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔

๑๒.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. เรือของผู้เข้าแข่งขันทุกลำเดินทางกลับสู่ท่าเรือแหลมงอบ ให้คณะกรรมการชั่งน้ำหนักปลาเพื่อเก็บคะแนน และประกาศผลการแข่งขันแต่ละประเภท โดยแบ่งประเภทของปลาเกมส์เป็น ๑๑ ชนิด

พิธีมอบถ้วยรางวัลและร่วมงานเลี้ยงรับประทานอาหารก่อนเดินทางกลับ สำหรับผู้ชนะการแข่งขันแต่ละประเภทจะมีถ้วยรางวัลและรางวัลเงินสดมอบให้ พร้อมจับสลากแจกของรางวัลให้กับนักกีฬาผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งแต่ละปีจะมีบรรยากาศที่เป็นกันเองและเต็มไปด้วยความสุข

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมแข่งขัน มีค่าใช้จ่ายในการสมัครเพียงทีมละ ๓,๐๐๐.- บาท (๑ ทีมมีนักกีฬาได้ไม่เกิน ๖ คน ค่าใช้จ่ายผู้ติดตามที่เกินจากนี้ เพิ่มคนละ ๓๐๐ บาท) รับเสื้อยืดและของที่ระลึกสำหรับทีมด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ ก่อนเวลา ๑๔.๐๐ น.